Thursday, January 12, 2006

BYU Hawaii Fireside


สรุปบีวายยู ฮาวาย ไฟร์ไซด์เมื่อวันที่ 10 มกราคม ค.ศ.2006
มีคนสอบถามมาช่วยให้สรุปการประชุมบีวายยู ฮาวายหลังการสอบมิชิแกนแล้ว ก็ขอนำมาลงเพื่อเป็นอุปทานแก่น้องๆครับ
การประชุมดำเนินโดย บราเดอร์ ไมค์ ซัดโลว์ ผู้เป็นผู้อำนวยการฝ่ายรับนักศึกษานานาชาติ พอดีอีกท่านหนึ่งผมจำชื่อท่านไม่ได้ แฮะๆๆ คงไม่เป็นไรใช่ไหมครับ

ท่านบอกว่ามหาวิทยาลัยบีวายยู ฮาวาย ได้รับการจัดอันดับของนิตยสารที่โด่งดังที่สุดรายการหนึ่งของสหรัฐอเมริกาให้เป็น มหาวิทยาลัยที่มีคุณภาพที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งที่สองลองทายซิว่าเป็นที่ใด แอ่น แอน แอ๊น BYU Provo นั่นเอง ฮาวายเราแซงมหาลัยรุ่นพี่เราไปแล้ว และ BYUH ก็ยังถูกจัดอันดับให้เป็น the most selective school in the USA นั่นก็หมายความว่าเป็นมหาลัยที่เข้ายากที่สุดในประเทศสหรัฐ อ่านแล้วเป็นยังไงบ้างครับ? เป็นเกร็ดเล็กๆน้อยๆที่น่าสนใจที่บราเดอร์ซํดโลว์นำมาเล่าขานให้เราฟังกันสำหรับปีนี้ครับ แต่ยังไม่หมดนะครับท่านยังช่วยแนะนำให้เราทราบถึงรายละเอียดอื่นๆ ที่ผู้สนใจเรียนต่อควรจะทราบ

ท่านได้บอกว่า BYUH ตั้งอยู่บนทำเลที่สวยงาม และเป็นธรรมชาติมาก มีหาดที่ติดอันดับยอดนิยมที่สุดในโลกหลายอันดับ แต่บนเกาะที่มหาวิทยาลัยตั้งอยู่นั้นมีสถานที่โดดเด่นอยู่ 3 แห่งด้วยกัน นั่นคือ พระวิหาร ฮาวาย, ศูนย์วัฒนธรรมโพลินีเชียน และ BYUH นั่นเอง เป็นมหาวิทยาลัยขนาดเล็ก นักเรียนประมาณ 2,400 คน และหลังจากนั้นท่านได้กล่าวว่ามหาวิทยาลัยมี ข้อผูกพัน 2 ฝ่ายร่วมกัน สิ่งที่ BYUH สัญญาที่จะมอบให้นักเรียนทุกๆคนที่ไปเรียนคือ การศึกษาที่มีคุณภาพ ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษขั้นสูง ประสบการณ์ในการทำงาน และอื่นๆ พอดีจำไม่ได้พอจำได้แล้วจะมาโพสใหม่นะ ส่วนคำสัญญาของเราก็นั่นแหละครับ ตั้งใจเรียน ....ก็อย่างที่รู้ๆกันแหละ แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ ต้องกลับมาเมืองไทย อันนี้เค้าย้ำเลยว่าถ้าท่านไม่คิดว่าจะกลับมาเมืองไทย มหาลัยนี้ไม่ใช่สำหรับท่าน เพราะว่านโยบายของมหาลัยคือที่จะให้นักศึกษากลับมาบ้านเมืองที่ตนเองอยู่และพัฒนาชุมชนนั้น พัฒนาประเทศ พัฒนาศาสนาจักรต่อไปไงครับ

แล้วคำถามใหญ่อีกคำถามหนึ่งก็คือเรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่งสรุปย่อๆได้เลยว่า 100% ของนักศึกษาทุกคนได้ทุนหมด นั่นหมายความว่านักศึกษาที่เรียนที่ BYUH ไม่มีใครต้องจ่ายเต็ม เลย โดยเฉพาะในประเทศแถบเอเชียนั้นทางมหาลัยมีทุนที่เรียกว่า ทุน IWES ซึ่งนักศึกษาจะต้องทำงานและเปลี่ยนให้กับมหาวิทยาลัย และต้องเรียนให้ได้ไม่ต่ำกว่า 2.00 ในแต่ละเทอม ต้องทำงานตามที่ทุนกำหนดไว้ซึ่งจะมาบอกเล่าเก้าสิบให้ฟังอีกทีนะครับ แต่ที่เจ๋งไปกว่านั้นคือ ผู้ปกครองของนักเรียนที่สมัครทุน IWES จะต้องช่วยจ่ายค่าเล่าเรียนด้วย แต่เพียง 10% ของรายได้ที่ครอบครัวได้เท่านั้นเองสำหรับสมาชิก แต่หากไม่ได้เป็นสมาชิกของศาสนาจักร ผู้ปกครองต้องจ่าย 20% ขึ้นไปของรายได้ ... ดูซิครับว่ามหาวิทยาลัยจะช่วยมากแค่ไหน และถ้าเก่งทางด้านวิชาการอื่นๆ หรือความสามารถพิเศษนักศึกษาก็ยังขอทุนที่เกี่ยวข้องกับความสามารถพิเศษนั้นๆได้อีกต่างหาก

ผมเองกับอีกหลายๆคนถอนหายใจเฮื้อกๆ หลังสอบมิชิแกนเทส เพราะว่ามันสุดยอดอหังการแห่งความยากลำบาก หรือจะว่าไม่จริง ใครเถียงคนนั้นเป็นอัจฉริยบุคคลเป็นอย่างแน่แท้ คิดดูผมท่องศัพท์มาร่วมสามเดือน ศัพท์ที่ออกมีไม่ถึง 10% จากที่อ่าน ฮ่าๆๆๆ ซึ่งผมประหลาดใจที่บราเดอร์ซัดโลว์ได้กล่าวว่า ท่านยอมรับว่าการสอบมิชิแกนเทสนั้นไม่ได้มีประสิทธิภาพที่ดีเท่าที่ควรรจะเป็น ข้อดีก็คือสมาชิกสอบฟรี และผู้สนใจจ่ายเพียง 300 บาท ต่อการสอบหนึ่งครั้งเท่านั้น ท่านบอกว่าหากท่านสอบได้คะแนน 60 คะแนน ขึ้นไปนั้น ท่านแนะนำว่าถ้าท่านมีรายได้พอ ก็ให้ไปสอบ TOEFL ซะ เพราะว่าเป็น การสอบที่มีคุณภาพ และประสิทธิภาพมากกว่า แต่ราคานั้นแพงลิบลิ่ว (5,000 บาท) เพราะส่วนใหญ่คนที่สอบ michigan ได้ 60 ขึ้นไปนั้น จะสอบ TOEFL ได้คะแนนในระดับที่มหาวิทยาลัยตั้งไว้ทั้งนั้น ซึ่งก็คือ 153 คะแนนนั่นเอง ก็ลองคิดดูกันนะครับ แล้วเดี๋ยวนี้ผมได้ยินมาว่า ระบบการสอบ TOEFL นั้นมีการเปลี่ยนแปลงใหม่แล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นยังไง ใครมีข้อมูลเพิ่มเติมก็ช่วยมาเล่าๆให้ฟังกันบ้างนะ

นอกจากนั้นก็ไม่มีมอะไรมาก มีบัณฑิตจาก BYUH มาเล่าประสบการณ์น่ารักๆในมหาวิทยาลัยให้ฟัง เกี่ยวกับกิจกรรม และ ชีวิตในมหาวิทยาลัย พร้อมทั้งเกรดเล็กๆ น้อยๆ

บราเดอร์ซัดโลว์บอกว่าอยากได้นักศึกษาจากประเทศไทยอีกเยอะๆ เพราะปัจจุบันมีนักศึกษาจากประเทศไทยเพียงแค่ 20 คนโดยประมาณเท่านั้นเอง ผมก็อยากจะให้ผู้อ่านช่วยประชาสัมพันธ์ให้กับ blog นี้ด้วยนะครับ ทางทีมงานจะได้ทำต่อไปเพื่อเป็นประโยชน์แก่น้องๆ ต่อไป มิฉะนั้น blog นี้อาจยุบก็เป็นได้ แต่สุดท้ายก็ขอบคุณน้องๆที่ให้ความสนใจกับ blog นี้นะครับ แล้วพบกันใหม่ครับ อ้อ อย่าลืม comment นะคร้าบ บ้าย บาย

5 Comments:

At 10:21 AM, Blogger Art said...

อ้าวเหรอ เออ จริงๆ

 
At 3:25 AM, Anonymous Anonymous said...

ขอบคุรสำหรับคำแนะนำนะคะ ขอหั้ยอยู่นานๆนะคะ และเห็นด้วยคะ michigan test ยากจิงๆค่ะ สอบไม่ผ่านสักที เฮ้อออ...สู้ๆๆ

 
At 8:42 AM, Anonymous Anonymous said...

ขอบคุณสำหรับข้อมูลคำแนะนำดีๆค่ะ อ่านแล้วมีกำลังใจขึ้น แต่ขอยืนยันจริงๆว่าข้อสอบยากมากๆ ใครที่อยากสอบก็ตั้งใจหน่อยละกัน คงต้องอ่านมากจริงๆ คะแนนสอบปีนี้เพิ่งออก ตื่นเต้นดีค่ะ ใครได้ก็ดีใจด้วยนะคะ แต่ สำหรับคนที่ยังไม่ผ่านก็ลองใหม่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ทุกคน

 
At 6:42 AM, Blogger Art said...

ขอบคุณครับ

 
At 11:54 PM, Blogger Siriporn Sanputhorn said...

ขอบคุณสำหรับข้อมูลและคอมเม้นค่ะ

 

Post a Comment

<< Home